แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจถูกบีบให้ต้องรับมือกับการจบฤดูกาลโดยไม่มี อเลฮานโดร การ์นาโช่ นักเตะกองกลางดาวรุ่งของสโมสร หากอาร์เจนตินาได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งในตอนแรก อาร์เจนติน่า ไม่ผ่านเข้ารอบสำหรับทัวร์นาเมนต์ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมและเดิมทีอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน แต่ ฟีฟ่า ได้ยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าภาพหลังจากที่เกาะบาหลีปฏิเสธที่จะต้อนรับทีมจากอิสราเอล และเจ้าภาพใหม่จะถูกเลือกในเร็วๆ นี้ และรายงานข่าวก็ได้ระบุว่าอาร์เจนตินาเป็นประเทศเดียวที่ยื่นข้อเสนอในการเป็นเจ้าภาพ

จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กล่าวว่า “มีประเทศอื่น ๆ ที่ประกาศความสนใจเช่นกัน แต่ในฐานะผู้สมัคร ด้วยการรับประกันของรัฐบาลและรายละเอียดอื่นๆ อาร์เจนตินา เป็นประเทศแรกที่ยื่นข้อเสนอ และเราจะตัดสินใจในสองหรือสามวัน”

หากอาร์เจนตินาได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพ ทีมอาร์เจนติน่าก็จะได้รับรับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในฐานะเจ้าภาพ และนั่นอาจส่งผลกระทบต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทางด้านของอาร์เจนติน่าต้องเรียกตัว อเลฮานโดร การ์นาโช่ เข้าร่วมการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวซึ่งจะเริ่มในวันที่ 20 พฤษภาคม และกฎของ ฟีฟ่า ทางด้านของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการเรียกตัวผู้เล่นจากทีมชาติได้ เนื่องจากทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญระดับโลก

อย่างไรก็ตามแม้ว่าตอนนี้นักเตะหนุ่มวัย 18 ปีรายนี้จะต้องพักรักษาตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า แต่รายงานข่าวในอาร์เจนตินาเชื่อว่าเขาจะฟิตพอที่จะลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้หากเขาถูกเรียกตัว และถ้าหากเขาถูกเรียกตัว อเลฮานโดร การ์นาโช่ จะพลาดการแข่งขันใน พรีเมียร์ลีก 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาลที่พบกับ บอร์นมัธ และ ฟูแล่ม และอาจจะรวมถึงการแข่งขันรายการอื่นๆ ทั้ง ยูโรป้าลีก และ เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ

แฟนๆ บอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเสียงแตกเกี่ยวกับเรื่องของ เมสัน กรีนวูด ว่าเขาควรเล่นให้กับสโมสรอีกครั้งหรือไม่ โดยทางด้านของ เมสัน กรีนวูด ไม่ได้เล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 และเขายังคงถูกสโมสรแบนมาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เขาโดนข้อหาข่มขืนและทำร้ายร่างกายแม้ว่าตอนนี้ข้อกล่าวหาเหล่านั้นจะถูกถอนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็กำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาว่า เมสัน กรีนวูด สมควรที่จะกลับมาร่วมทีมหรือไม่

เมสัน กรีนวูด ได้มีการออกแถลงกาณณ์หลังจากที่มีการยกฟ้องว่า “ผมรู้สึกโล่งใจที่เรื่องนี้จบลงแล้ว และผมอยากจะขอบคุณครอบครัว คนที่รัก และเพื่อนๆ ของผมสำหรับการสนับสนุน และผมจะยังไม่มีความคิดเห็นเพิ่มเติมในเวลานี้”

นักเตะหนุ่มทีมชาติอังกฤษรายนี้ไดเลงเล่นให้ปีศาจแดงไปแล้ว 129 นัด แต่เขาไม่ได้สัมผัสเกมเลยในช่วง 400 วันหลังสุดนับตั้งแต่ถูกจับกุม และจากผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าวในต่างประเทศซึ่งมีผู้คนมีส่วนร่วมกว่า 14,000 เสียงพบว่า 51 เปอร์เซ็นต์จากเสียงเหล่านั้นโหวตว่า เมสัน กรีนวูด ควรได้รับอนุญาตให้กลับเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะที่อีก 49 เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วย

จากผลโหวตดังกล่าวจะเห็นได้ชัดว่าความเห็นของแฟนบอลนั้นแตกออกเป็นสองเสียงอย่างเห็นได้ชัดในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน และอาจจะไม่ได้เป็นเอกฉันท์มาก แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่า เมสัน กรีนวูด จะได้กลับมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกหรือไม่ แต่ทางด้านของ เอริค เทน ฮาก เองก็เคยได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าเขาต้องการที่จะเซ็นสัญญากับกองหน้าคนใหม่ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้

ในตอนนี้มีการคาดการณ์ว่าทางด้านของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ จะยื่นข้อเสนอเพื่อขอซื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังที่ตอนนี้มีข่าวออกมาเปิดเผยว่าตระกูลเกลเซอร์สเตรียมที่จะขายหุ้นของสโมสร ซึ่งบางแหล่งข่าวก็ระบุว่าพวกเขาจะขายหุ้นแค่เพียงบางส่วน แต่บางรายงานข่าวก็ระบุว่าพวกเขาเตรียมที่จะเทคโอเวอร์สโมสร

หลายคนก็รู้จัก เซอร์ จิม แรตคลิฟ เป็นอย่างดีว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยมากที่สุดของสหราชอาณาจักร ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมารายงานตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วว่าเขาต้องการที่จะซื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาชื่นชอบมาตั้งแต่ยังเด็ก และก่อนหน้านี่เขาก็เคยมีการประมูลซื้อสโมสรฟุตบอล เชลซี ด้วย แต่ว่าเขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับกลุ่มทุนของ ท็อดด์ โบห์ลีย์ ที่กำลังเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล เชลซี อยู่ในตอนนี้

แน่นอนว่าในตอนนี้ทางด้านของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เป็นบุคคลที่มีศักยภาพในการซท้อสโมสรไปไว้ในครอบครองอย่างแน่นอน หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจที่จะขาย แม้ว่าในช่วงเดือนตุลาคม ตระกูลเกลเซอร์สได้ออกมายืนยันว่าพวกเขาจะไม่ขาย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ทางด้านของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ก็เคยมีข่าวเรื่องการซื้อสโมสรฟุตบอล ลิเวอร์พูล ด้วย แต่ดูเหมือนว่าในปัจจุบันเขาจะได้ละความสนใจจากสโมสรดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ตระกูลเกลเซอร์ได้ออกมาแถลงการณ์เรื่องสถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา และคาดว่าตอนนี้เขานะจะกำลังเตรียมร่างข้อเสนอเพื่อขอซื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่

ตอนนี้ได้มีข่าวจาดสำนักข่าวในต่างประเทศได้ออกมาเปิดเผยว่า ฮึง มิน-ซอน กำลังชั่งน้ำหนักอนาคตของเขากับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อยู่ในตอนนี้ หลังจากที่ตอนนี้เขาได้รับความสนใจจาก เรอัล มาดริด ซึ่งทางด้านของ คาร์โล อันเชล็อตติ เฮดโค๊ชของ เรอัล มาดริด เองก็ต้องการที่จะเสริมเกมรุกให้กับทีมของเขาอยู่ในตอนนี้

ในฤดูกาลนี้ ฮึง มิน-ซอน ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองมาก ซึ่งเขาพยายามดึงฟอร์มของตัวเองออกมาให้ได้เหมือนกับฤดูกาลที่แล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาสามารถทำประตูไปได้เพียงแค่ 3 ประตู และ 2 แอสซิสต์ จากการลงสนามไปทั้งหมด 12 นัด และเขาก็ได้ลงเป็นตัวจริงไปทั้งหมด 11 นัด ในขณะที่ฤดูกาลที่แล้วเขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นและยังสามารถคว้ารางวัลรองเท้าทองคำร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้อีกด้วย

จากสถานการณ์และผลงานของเขาในตอนนี้ทำให้เขามีโอกาสเสี่ยงที่จะหล่นไปเป็นผู้เล่นสำรองเป็นอย่างมากในอนาคต และมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขากำลังจะพิจารณาผลงานของตัวในตอนนี้และอาจจะหาทางออกที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามทางด้านของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เองก็ไม่น่าจะอยากที่จะเสียผู้เล่นทีมชาติเกาหลีใต้รายนี้ของพวกเขาไป

สำหรับตอนนี้ เรอัล มาดริด ก็ยังคงจับตาดูผลงานและสถานการณ์ของ ฮึง มิน-ซอน อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการแต่งตั้ง คาร์โล อันเชล็อตติ เข้ามาเป็นเฮดโค๊ชเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเขาเองก็ชื่นชอบผลงานของ ฮึง มิน-ซอน มาตั้งแต่สมัยเขาเป็นกุนซือของ เอฟเวอร์ตัน แต่อย่างไรก็ตามมันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะว่าตอนนี้ ฮึง มิน-ซอน ก็ยังเหลือสัญญากับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จนถึงปี 2025

ริชาร์ลัสัน ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์เพื่อผลักดันตัวเองให้ได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงในสนาม และทำแอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก ได้ 2 ครั้ง และทำ 2 ประตูแรกในการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้จ่ายเงิน 60 ล้านปอนด์เพื่อเซ็นสัญญากับนักเตะหนุ่มทีมชาติบราซิลรายนี้จาก เอฟเวอร์ตัน ในช่วงซัมเมอรืที่ผ่านมา หลังจากที่เขาได้ยิงไปทั้งหมด 43 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ในช่วงที่เล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน

แต่อย่างไรก็ตามทางด้านของ ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตเฮดโค๊ชของ เอฟเวอร์ตัน ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึง ริชาร์ลัสัน ซึ่งเคยเป็นอดีตลูกทีมของเขาว่าศักยภาพของ ริชาร์ลัสัน ยังคงไม่เพียงพอสำหรับการเล่นให้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ ริชาร์ลัสัน เองก็ยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างหรือยกระดับผลงานให้กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้ และยังแนะนำให้ อันโตนิโอ คอนเต้ ใช้งานผู้เล่นคนอื่นในทีมลงเล่นเป็นตัวจริงมากกว่าที่จะใช้อดีตผู้เล่นของเขาลงสนาม

ราฟาเอล เบนิเตซ ได้เปิดเผยว่าเมื่อพิจารณาจากผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้ว การที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ มี แฮร์รี่ เคน, ซอน ฮึง-มิน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ เล่นในตำแหน่งกองหน้าก็น่าจะเพียงพอสำหรับทีมแล้ว และเขาเชื่อว่ามาตรฐานการเล่นของ ริชาร์ลิสัน ยังไม่พร้อมที่จะเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ ได้ และเขาก็เชื่อว่า ริชาร์ลิสัน ไม่สามารถทำผลงานได้เหมือนกับผู้เล่นกองหน้าทั้งสามคนที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ มีอยู่ได้อย่างแน่นอน

ต้องรอดูต่อไปว่า อันโตนิโอ คอนเต้ จะสามารถลบล้างคำดูถูกของ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่มีต่อ ริชาร์ลิสัน ได้หรือไม่ และหลังจากที่ข่าวดังกล่าวหลุดออกมา อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าเขาไม่ต้องการให้ ราฟาเอล เบนิเตซ มาพูดถึงหรือวิจารณ์การเลือกตัวผู้เล่นของเขา และเขาก็เชื่อว่า ริชาร์ลิสัน เป็นผู้เล่นที่สามารถพัฒนาได้อย่างแน่นอน

อนาคตของ เวสลีย์ โฟฟาน่า เริ่มมีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มมีความรู้สึกว่าสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังตั้งราคาของเขาสูงเกินไปเพื่อที่จะทำให้เขาหมดโอกาสในการย้ายไปยัง เชลซี ซึ่งทางด้านของนักเตะหนุ่มวัย 21 ปีรายนี้ต้องการย้ายไปยัง เชลซี เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อต่อยอดไปถึงโอกาสที่จะได้ติดทีมชาติฝรั่งเศสของเขาเองด้วยสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงปลายปีนี้

โดยทางด้านของ เวสลีย์ โฟฟาน่า ต้องการที่จะเดินตามรอยเท้าของรุ่นพี่อย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ซึ่งเป็นผู้เล่นระดับตำนานของทีมชาติฝรั่งเศสที่เกิดใน มารืกเซย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ เวสลีย์ โฟฟาน่า เช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ก็เคย่นให้กับ เชลซี ที่ สแตมฟอรืด บริดจ์ มาก่อน

ตอนนี้ เวสลีย์ โฟฟาน่า ทำผลงานของเขาได้ดีในการเล่นให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และนั่นทำให้เขาได้รับความสนใจจากหลายๆ สโมสรชั้นนำในยุโรป แต่ล่าสุเ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้เลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอที่มีมูลค่าสูงถึง 60 ล้านปอนด์ของ เชลซี ในการขอซื้อตัวนักเตะหนุ่มรายนี้

และการกระทำของต้นสังกัดของเขาในครั้งนี้น่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับเขาเป็นอย่างมากหลังจากที่เขาได้รู้ว่า เลสเตอร์ ซิตี้ พยายามที่จะโก่งค่าตัวของเขาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะทำลายสถิติโลกสำหรับการซื้อตัวผู้เล่นกองหลังในราคานี้ ซึ่งคาดว่า เลสเตอร์ ซิตี้ น่าจะต้องการเงินเป็นจำนวนมากกว่า 80 ล้านปอนด์ในการพิจารณาขาย เวสลีย์ โฟฟาน่า ออกจากสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้

สำนักข่าวในบราซิลได้ออกมารายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอเปิดให้กับ แอนโทนี นักเตะตัวเก่งของ อาแจ็กซ์ เนื่องจาก เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนใหม่ต้องการที่จะร่วมงานกับอดีตนักเตะของเขาอีกครั้ง และคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในเร็วๆ นี้ และมันคงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยที่ปีศาจแดงจะมีข่าวเชื่อมโยงกับดาวเตะวัย 22 ปีที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน อัมสเตอร์ดัม ภายใต้โค้ชคนเก่าของเขา และเขาก็มีส่วนช่วยให้ อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ลีกไปครอง

แอนโทนี ย้ายมาร่วมทีม อาแจ็กซ์ ในปี 2020 หลังย้ายจาก เซา เปาโล และเขาก็เข้ามาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการมาเล่นให้กับ อาแจ็กซ์ และรวมถึงใน แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วย รวมถึงยังเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมชาติบราซิลโดยยิงประตูไปได้ทั้งหมด 2 ประตู จากการติดทีมชาติทั้งหมด 9 นัด

และดูเหมือนว่าการย้ายไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก อาจจะอยู่ในตัวเลือกในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย โดย เอริค เทน ฮาก ต้องการที่จะดึง แอนโทนี มาร่วมทีมด้วยกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งนี่เป็นส่วนนึงในแผนการทำทีมของ เอริค เทน ฮาก ในฤดูกาลหน้า และตอนนี้ ฆอร์เก้ นิโคลา นักข่าวชาวบราซิลก็ได้เผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอให้กับนักเตะหนุ่มรายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าข้อเสนอน่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านปอนด์

แอนโทนี ยิงไปได้ทั้งหมด 12 ประตู และทำไป 10 แอสซิสต์ในการแข่งขันทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และผลงานของเขายังพัฒนาขึ้นทุกๆ ฤดูกาลที่เขาได้ลงเล่น และเขาไม่ใช่ผู้เล่นคนเดียวของ อาแจ็กซ์ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการเซ็นสัญญาด้วย หลังจากที่ เอริค เทน ฮาก ได้รับการเปิดตัวในฐานะเฮดโค๊ชคนใหม่ของทีม เนื่องจาก เอริค เทน ฮาก พยายามที่จะทำงานร่วมกับผู้เล่นที่เขาคุ้นเคยด้วย

เจสซี่ มาร์สช์ ผู้จัดการทีมชาวอเมริกันของ ลีดส์ ยูไนเต็ด ตั้งเป้าหมายให้สโมสรของเขานั้นเป็นทีมอคาเดมี่ปั้นนักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลกและต้องการพาทีม “ยูงส์ทอง” คว้าถ้วยแชมป์ในอนาคต

ขณะที่ในฤดูกาลนี้การเอาตัวรอดตกชั้นฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของ ลีดส์ นั้นยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับพวกเขา ด้วยระยะห่างแค่เพียง 2 คะแนนเท่านั้นกับโซนตกชั้นและเหลือเกมให้ลงเล่นอีกแค่เพียง 4 เกมเท่านั้น “ตอนนี้ สิ่งที่ผมโฟกัสแค่เพียงอย่างเดียวนั้นก็คือการที่เราต้องมั่นใจว่าพวกเราจะอยู่ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกต่อไป” เจสซี่ มาร์สช์ กล่าวกับ Sky Sports

“ผมไม่ปล่อยให้ตัวเองมีความคิดว่าถ้าหากพวกเราทำไม่ได้ เพราะว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร ใช่ไหม? หลังจากนั้นมันดูเหมือนว่าเราจะเป็นอคาเดมี่ที่ดีที่สุดในโลกได้ ด้วยนักฟุตบอลดาวรุ่งที่เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของเราอย่างสม่ำเสมอและสามารถทำให้พวกเราไปเล่นฟถตบอลยุโรปได้อย่างต่อเนื่องและวางเป้าหมายด้วยกานคว้าถ้วยรางวัล”

มาร์ติน โอเดการ์ด นั้นกำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงให้กับทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล และเพลย์เมกเกอร์ทีมชาตินอร์เวย์ ก็เชื่อว่าทีมของพวกเขากำลังสร้างสิ่งที่พิเศษในการคว้าอันดับท็อป 4 และตั๋วไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า

ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เพิ่งเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ มาด้วยสกอร์ 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ พร้อมขยับแซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้เนมาอยู่ในอันดับที่ 4 ของพรีเมียร์ลีก “มันชัดเจนเลยว่ามีบางสิ่งที่พิเศษกำลังเกิดขึ้นที่นี่ คุณสามารถรับรู้ได้ทั้งสโมสร” มาร์ติน โอเดการ์ด กล่าวกับ TV2

“พวกเรากำลังสร้างบางสิ่งที่พิเศษ มันเป็นกลุ่มนักเตะที่เหมือนๆกันและสนุกไปกับการเล่นฟุตบอลด้วยกันด้วย มันคือความสนุกในการเล่นฟุตบอลที่นี่ พวกเรารู้จักกันเป็นอย่างดีและก็กำลังเล่นได้ดีและดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มันไหลลื่นไปได้ดีมากๆ มันสนุกที่ได้เล่นร่วมกันและเข้าใจกันและกัน”

แบร์นาร์โด้ ซิลวา เพลย์เมกเกอร์ของทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมายอมรับว่ากรขึ้นนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก นั้นมีความหมายสำหรับเขามากกว่าประตูที่เขาทำได้ในเกมที่ แมน ซิตี้ บุกไปเอาชนะ วัตฟอร์ด ด้วยสกอร์ 3-1

ซิลวา นั้นทำ 2 ประตูได้ทั้ง 2 ครึ่งของเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะพาทีมคว้า 3 คะแนนและเป็นชัยชนะเกมที่ 5 ติดต่อกันของทีม “เรือใบสีฟ้า” และทะยานขึ้นจ่าฝูง

“มันเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมในครึ่งแรก ทีมของเราออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมมากๆ สร้างโอกาสได้อย่างมากมายและไม่ปล่อยให้พวกเขาเล่นเกมโต้กลับ พวกเราทำได้ 2 ประตูในครึ่งแรกและควรทำประตูได้มากกว่านี้” แบร์นาร์โด้ ซิลวา กล่าวกับ Sky Sports

“การเป็นจ่าฝูงมีความสำคัญมากกว่าการทำ 2 ประตู มันมีความหมายมากกว่าอันดับ 2 หรืออันดับ 3 แต่มันก็ยังอยู่ในช่วงต้นฤดูกาลเท่านั้น มันยังสูสีกันเกินไป ลิเวอร์พูล มีคะแนนตามหลังเราแค่เพียง 1 คะแนนเท่านั้น เชลซี ก็ไล่หลังเรามาแค่เพียง 2 คะแนน เช่นเดียวกัน”